วันนี้ได้ฤกษ์เขียนblogซะที หลังจากแอบอู้มาหลายรอบ จะอัพblogทั้งทีขอดูดีมีสาระหน่อย สืบเนื่องมาจากเมื่อ3วันก่อนไปเดินคาร์ฟูแล้วเจอแป้งโดว์แต่แหม ก้อนนิดเดียวขายซะแพง ราคามีตั้งแต่สี่สิบห้าสิบบาทไปจนถึงร้อยสองร้อย จริงๆทำเองก็ได้ง่ายมาก อุปกรณ์ก็ไม่แพง แล้วอีกอย่างไม่ได้ทำให้น้องจ๋าเล่นนานแล้ว สำหรับสูตรได้มาจากเวบhttp://www.thaibreastfeeding.com
แล้วแป้งโดว์คืออะไร?? แป้งโดว์ก็คือแป้งที่ไว้ให้เด็กปั้นเล่น เหมือนกับดินน้ำมันนี่เอง แต่ปลอดภัยไม่มีสารเคมีเจือปน ยิ่งถ้าทำเองยิ่งดีเพราะจะไม่มีสารกันบูด ที่สำคัญสามารถเอาเข้าปากได้ ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะกิน เพราะมันเค็มมาก!
มาเริ่มที่อุปกรณ์กันเลยดีกว่า
แป้งสาลี 3 ถ้วยตวง
น้ำสะอาด 2.5 ถ้วยตวง
เกลือป่นแบบละเอียดยิบ 1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ครีม ออฟ ทาร์ทาร์ (cream of tartar) 4 ช้อนโต๊ะ มีขายที่แผนกทำขนมในซูเปอร์มาร์เกต ขวดละประมาณ 30 บาท
สีผสมอาหารตามชอบ
วิธีทำ
นำกระทะใบค่อนข้างใหญ่วางบนเตา ยังไม่ต้องเปิดไฟ เตรียมไม้พายหรือทัพพียาวๆ แข็งแรงที่ใช้กวนได้สะดวก แม่จ๋าใช้ตะหลิวเอาจ้า
ผสมแป้ง เกลือกับครีมออฟทาร์ทาร์ให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำเปล่ากับน้ำมันพืชลงไป กวนให้เข้ากัน จะกลายเป็นแป้งข้นๆ วันนี้แม่จ๋าลดอัตราส่วนลงครึ่งนึงจากสูตรเพราะ ทำเต็มสูตรแล้วกวนลำบาก มือไม่แข็งพอบวกกับพ่อน้องจ๋าไม่ว่างช่วย – -*
เปิดไฟอ่อนๆ กวนให้แป้งสุก แป้งจะจับตัวเป็นก้อน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนต้องออกแรงหน่อย โกรธใครมาก็ระบายออกมาเต็มที่เลย!! พยายามกดให้แป้งแผ่ออกแบนๆ จะได้โดนไฟจนสุกทั่วๆ กัน ถึงจะสุกไม่ทั่วก็ไม่เป็นไรหยวนๆ แป้งที่สุกแล้วจะเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีเหลืองอ่อนๆ เสร็จแล้วหน้าตาออกมาเป็นแบบนี้
เสร็จแล้วก็เอาแป้งมานวดให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้มีน้องจ๋ามาช่วยด้วย *-*
นวดเสร็จก็ใส่สีผสมอาหาร แล้วก็นวดให้สีเข้ากัน วันนี้ทำ2สี สีชมพูกับสีเขียว
แค่นี้เองเสร็จแล้วง่ายจัง
สำหรับวิธีเก็บรักษาก็ใส่ภาชนะที่มีฝาปิดแน่น ถ้าทิ้งไว้หลายๆ วัน แป้งจะเริ่มแห้งมองเห็นผงเกลือเป็นจุดๆ ไม่ต้องตกใจ แค่นวดๆให้เข้ากันก็ใช้ได้ อ้อถ้าแป้งมันเริ่มแห้งก็หยอดน้ำใส่ลงไปแล้วนวดให้เข้าก็ใช้ได้ แป้งโดว์สามารถเก็บได้นานหลายอาทิตย์
ปล.ถ้าใครจะเติมกลิ่นลงไปในแป้งก่อนกวนก็ได้นะ จะได้หอม แต่ทรมานใจลูกถ้ากลิ่นมันเย้ายวนน่ากิน- -*
ปล.2แป้งโดว์เด็กอายุ7-8เดือนก็เล่นได้แล้ว นะจ๊ะ ฝึกกล้ามเนื้อมือดีนักแล *-*
January 3rd, 2008 at 11:24 am
เฮ้ย บล็อคมีสาระ
แต่น่าสนุกนะเนี่ย
January 3rd, 2008 at 1:20 pm
ดูน้องจ๋าเล่นแล้ว น่าหนุกดีแฮะ
เดี๋ยวต้องเก็บสูตรไว้ทำให้น้องนะโมเล่นซะแว้วววววว
January 6th, 2008 at 10:57 am
โฮะๆ น่าหนุกดีจัง ทำให้หนูเล่นมั่งจิ อยากเล่นๆ
January 22nd, 2008 at 6:34 am
สูตรคล้ายๆ พวกแป้งขนมปังเลย….ไอเดียแหร่มมากมาย แถมปลอดภัยกะลูกด้วย..ชอบตรงลูกไม่กล้ากินเพราะมันเค็มนี่แหละ 555+
August 5th, 2008 at 1:05 pm
ลองทำแล้วใช้ได้แค่ครั้งเดียวเอง พออีกวันเอาออกมาเล่นแล้วแป้งมันเละ ติดมือไปหมดเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
August 6th, 2008 at 2:05 am
ตอบ คุณแม่น้องAngle
ไม่ทราบว่าคุณแม่น้องAngleกวนแป้งให้สุกหรือเปล่าเอ่ย อาจจะเป็นเพราะว่ากวนแป้งไม่สุกหรือเปล่า เพราะเนี่ยยังใช้ได้อยู่เลย ทำมาอาทิตย์กว่าแล้ว ยัยลิงยังเอามาบี้เล่นอยู่เลย *-*
อีกอย่างนะคะ ถ้าอยากเก็บไว้นานๆแช่ตู้เย็นก็จะช่วยได้นะคะ แต่แม่จ๋าไม่ได้แช่ตู้เย็นนะคะ เพราะว่าเดี๋ยวลืมเอามาให้น้องจ๋าเล่น – -* เลยเก็บไว้รวมกับของเล่นอย่างอื่น
November 23rd, 2008 at 8:58 am
แป้งโดมันเกี่ยวข้องอย่างไร?กับเรื่องของเด็กปฐมวัยและอนุบาล..ลองอ่านดูสักนิดไว้เผื่อมีลูกจะเข้าเรียนชั้นเตรียมอนุบาล
-ในสมัยก่อนโน้น.., คุณปู่ คุณย่า,คุณตา,คุณยาย เริ่มเข้าเรียนชั้นประถมชั้นที่ 1 บทเรียนที่ท่านเหล่านั้นต้องเรียนคือเริ่มเรียนฝึก ขีก และ เขียน ก็เขียน ก. ไก่ ข. ไข่ในเล้า ค. ควายไถนา ..จนถึง ฮ. นกฮูก ตาโต
-บทเรียนในสมัยก่อนโน้น ใน 1 ห้องเรียน ย่อมมีคุณปู่ คุณย่า
-ขีด เขียนได้ดีดังนี้ใน 1 ห้องเรียน
มีกลุ่มที่เขียนได้ดี เฉลี่ยกกี่ %
มีกลุ่มที่เขียนได้พอใช้ เฉลี่ยกี่ %
มีกลุ่มที่เขียนได้ไม่ดีเลย เฉลี่ยกี่ %
เฉพาะกลุ่มที่เขียนได้ไม่ดีพอคุณครูจะจับมือมือคุณปู่,คุณย่าฝึกเขียนที่ละคนจนกระทั่งทุกคนขีด เขียนได้เอง.แต่ว่าใน 1 ห้องเรียนมีนักเรียนจำนวนค่อนข้างมากจึงเป็นภาระคุณครูผู้สอนในการจับมือฝึกเขียนที่ละคน
ปํญหาดังกล่าว ทางกระทรวงศึกษาธิการเลยอนุญาติให้นำดินเหนียวมาฝ฿กและปั้น เพื่อลดภาระของคุณครูในห้องเรียน…ต่อมาสมัยคุณลุง,คุณป้า ก็ยังใช้ดินเหนียว และต่อมาสมัยคุณพ่อ,คุณแม่ทีมีอายุ ตำกว่า 40 ปี การนำดินเหนียวมาใช้ในห้องเรียนจึงลำบาก เพราะเมื่อสังคมเมืองขยายตัวมากขึ้น ดินเหนียวจึงยุ่งยากในการนำมาใช้ในห้องเรียน
ดินน้ำมัน Putty จึงเป็นที่รู้จัก..รู้จักอย่างไร?
,มีการImport ดินน้ำมันเข้าจากต่างประเทศมาใช้แทนดินเหนีบวซึ่งดินน้ำมันในต่างประเทศเขาใช้ทำเป็น Model ในอุตสาหกรรมพลาสติคล้วนเป็นสารเคมี สังเกตู..อย่างไร ? มีกลิ่นเหม็นไง…, และติดมือด้วย..ลองนำดินน้ำมันตาดแดดดูซิ..จะละลายเยิ้มๆเมื่อติดมือจะล้างออกลำบาก
จะว่าไป..การศึกษาไทยคิดดูแล้วน่าสงสาร.. ผู้ใหญ่และผู้เกี่ยวข้องยังดันทุรังนำมาใช้ในห้องเรียนลูกๆของเด็กไทย
ประมาณปี 2525-2529-2530 มีเด็กหลายๆโรงเรียนทั่วประเทศมีอาการแกลิ่นดินน้ำมันแต่ขณะนั้นเราไม่มีทางเลือก
คุณครูผู้เกียวข้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมให้มีการยกเลิกการใช้ดินน้ำมัน
และผู้ผลิตทราบข่าวอย่างนี้….จึงลดการใช้สารเคมีจึงตั้งชื่อใหม่ว่า ดินน้ำมันไร้สาร Non- Toxic แต่ยังเป็นดินน้ำมันเช่นเดิม แต่กลิ่นลดน้อยลง
โอ้ย… มีหลายอย่างจะต้องทำ.. ทั้งประชุม ทั้งอบรมลูกน้อง อาทิตย์นี้พอแค่นี้ อาทิตย์หน้า จะเล่าต่อ หรือถ้าสนใจเรื่องนี้ลอง email= arlek004@yahoo.com หรือ โทรฯ 086-538-4880
March 12th, 2009 at 12:32 pm
มาจดสูตรแป้งโดว์คะ
บ้านจำลองเราเคยทำแล้ว ลูกคนโตชอบมาก แต่ลูกคนเล็กยังไม่ได้ทำให้เลย แต่เค้าเอากล่องเปล่าทำเป็นบ้านไปแล้ว
ของเล่นฝึกสมาธิ ดีมาเลย เดี๋ยวขอเลียนแบบ
June 9th, 2009 at 5:25 pm
ทำเองก็ประหยัดตังคืดีครับ
November 27th, 2009 at 7:28 pm
ลองทำแป้งโดว์แล้วพออีกวันเหลวติดมือเลยค่ะ พยายามลองทำทุกวันมาเป็นอาทิตย์แล้วค่ะผลออกมาก็เหมือนเดิมต้องทำให้เล่นใหม่ทุกวันเลยเพราะลูกชอบเล่นมาก
December 10th, 2009 at 6:21 pm
นู๋นำมาเล่นและลองทำดู ปรากฎว่า 2สัปดาห์เท่านั้นแระ ‘ฮืม’แข็งมากๆ นู๋จะทำอย่างไรให้มันกับมานิ่มเหมือนเดิมคร่า
February 19th, 2010 at 6:45 pm
ถ้าปั้นสวยๆ ปล่อยให้แข็งแล้วเอาเก็บไว้ดูเล่นจะได้หรือเปล่าคะ สีจะเปลี่ยนมั้ย
May 2nd, 2010 at 9:11 pm
พึ่งหัดทำวันนี้เองค่ะ ทำไมแป้งมันนิ่ม ๆเละๆ ปั้นแล้วมันไม่แข็ง ติดมือด้วย ทำไมถึงเป็นอย่าง
นี้ก็ไม่รู้ ดูเหมือนทำง่าย แต่ที่จริงมันยากเหมือนกันค่ะ ลูกอยากเล่นมากเลย มานั่งเฝ้าดูอยู่ สงสารลูกจัง คุณแม่ทำไม่เป็น ไม่รู้ทำผิดสูตรตรงไหน
May 3rd, 2010 at 11:24 pm
ถ่ายรูปมาให้ดูได้ไหมคะ ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ใส่น้ำเยอะไปหรือกวนแป้งไม่สุก
May 26th, 2010 at 7:16 pm
ลองทำแล้วเหมือนันค่ะปรากฎว่าแป้งติดมือเหมือนกันค่ะจะทำยังไงดีค่ะ
May 31st, 2010 at 6:47 pm
ข่าวดีครับ…ผมพัฒนาแป้งโดว์ได้สำเร็จเป็นรายแรกๆของบ้านเราครับจดสิทธิบัตรเป็นรายแรกๆเลยและมีหลายโรงเรียนสั่งซื้อไปใช้แล้วครับ…จำนวนมากด้วย เหตุผลที่ผมพยายามพัฒนาแป้งโดว์ เพราะลูกสาวแพ้ดินน้ำมันไร้สาร….ดินน้ำมันไร้สารเป็นเพียงชื่อแต่จริงๆ……อันตรายมาก. ลองค้นดูในเวป..เด็กเล่นนานๆจะทำให้เด็กเป็นหมัน
————————————————
แป้งโดว์ที่เราพัฒนาได้สำเร็จ..อายุการใช้งานมากกว่า 1 ปี และรับประกันคุณภาพ 1 ปีด้วย
คุณสมบัติ
1.ถ้าลูกๆปั้นรูปต่างๆตั้งโชว์ไว้จนแข็งแล้ว…ให้นำผลงานใส่กระปุกปิดฝาไว้ 48 ชมแป้งโดว์จะนิ่มเหมือนเดิม
2.ใช้เรียนรู้หลักผสมแม่สีได้ด้วย
3.ถ้าลูกๆเล่นแป้งโดว์ผสมกันหลายๆสี…ไม่ต้องทิ้ง..สามารถบังคับให้เป็นสีอื่นได้ด้วย
และอื่นๆ
……พร้อมกันนี้เราได้พัฒนาอุปกรณืพัฒนากล้ามเนื้อเด็กให้แข็งแรงกว่าปกติ ทำให้เด็กเขียนตัวหนังสือได้เอง..โดยไม่ต้องจับมือลูกฝึกเขียนอีกแล้ว
สนใจลองติดต่อคุณอาเล็ก ขวัญยืน 086-538-4880, 086-55-77-075 email;arlek004@yahoo.com
June 2nd, 2010 at 6:20 pm
ขอตอบ K. nee นะครับ..แป้งโดว์ที่ติดมือ วิธีแก้นะครับ..เปิดฝาทิ้งไว้จนแห้งหมาดๆแล้วนำแป้งโดว์มานวดรวมๆกัน ก็จะหายติดมือครับ หรือ มาจากหลายสาเหตุ..หนึ่งในนั้นก็คือ..เวลากวนแป้งโดว์อย่าใช้น้ำมันพืช..ให้ใช้น้ำมันปาล์มครับ
จาก.อ.พลอยพาณิชย์ ผู้พัฒนาแป้งโดว์ได้สำเร็จเป็นรายแรกๆของเมืองไทย..และไม่ติดมือด้วย..อายุใช้งานมากกว่า 1 ปี สนใจลองติดต่อ 086-538-4880 คุณพ่อหนูเองคะ
July 21st, 2010 at 9:08 am
สวัสดี..ครับ..คุณแม่,พ่อที่รักของลูกๆ
แป้งโดว์..มันเกี่ยวข้องกับลูกๆอย่างไร? ลองไปซื้อหนังสือคู่มือผลิตสื่อระดับก่อนประถมศึกษา,กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร หน้าที่ 80 พิมพ์ครั้งที่ 1 พศ 2544 จำนวน 20000 เล่ม ISBN 974-01-3236-7 เลยเป็นที่มาในมหาวิทยาลัยทุกสถาบันได้เรียนรู้เรื่องแป้งโดว์..จุดประสงค์ ..ต้องการให้คุณครูรุ่นใหม่รู้ประโยชน์ของแป้งโดว์..และนำไปใช้ในห้องเรียนของลูกๆแต่ละโรงเรียนแต่ที่แป้งโดว์ส่วนมากอยู่ได้ไม่นานเพราะ ต้องนำเครื่องจักรที่มีราคาแพง..มาใช้จึงจะทำให้แป้งโดว์อยู่ได้นาน..เพราะลูกสาวผมแพ้ดินน้ำมันไร้สารนี้เองเมื่อปี 2543 ผมจึงได้รู้ว่าสมัยนี้เขาใช้แป้งโดว์ในห้องเรียน…แต่ผมเข้าใจครับ..คุณครูผู้สอนในห้องเรียนงานก็เยอะ..จะกวนแป้งโดว์ให้ลูกๆเล่นที..ต้องเตรียมอุปกรณ์มากมาย..ต้องหิ้วหม้อ,กระทะ..มาจากบ้าน..ผมหมายถึงบางโรงเรียนนะครับ..
เหตุผลหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้แป้งโดว์สำหรับลูกๆคือ..ปัจจุบันลูกๆต้องเข้าโรงเรียนอายุ 3-4-5 ขวบ ย่อมแตกต่างจากสมัยผมเข้าเรียนชั้นประถมปีที่ 1 อายุ 7 ปี กล้ามเนื้อข้อมือกำปั้น ( หรือทางวิชาการเรียก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ )และข้อนิ้วหัวแม่โป้ง และ ข้อนิ้วชี้ แข็งแรงต่างจากเด็กในสมัยผม…และผมสังเกตุจากอะไร ?ลูกสาวผมฝึกหัด ขีดและเขียน ก ข -ฮ แม่กับลูกๆ โอย..ทะเลอะกันบ่อยๆ เพราะฝึกเขียนหลายเดือนแล้ว ตัวหนังสือยังไม่เป็นตัวเลย…นี้เป็นเหตุผล..ต้องออกกำลังกายข้อมือ 6 เดือนผ่านไปในชั้นเตรียมอนุบาลที่ได้นำอุปกรณ์พัฒนากล้ามเนื้อมือมาใช้ร่วมกับแป้งโดว์ ทำให้ลูกสาวเขียนตัวหนังสือได้สวยและตรง…เมื่อเขียนได้เด็กย่อมอ่านหนังสือออกแน่นอน….เมื่อลูกสาวผมขึ้น ป.1 ผมจึงนำแป้งโดว์และอุปกรณ์พัฒนากล้ามเนื้อมือไปเสนให้ครูที่โรงเรียนปรากฎว่า..คุณครูสั่งซื้อ…จึงเป็นที่มาต้องลาออกจากงานมาพัฒนาแป้งโดว์และขายตามโรงเรียนจนถ฿งปัจจุบัน
ถ้าสนใจพัฒนาลูกๆลอง ทฟรส มาตุยกับผมได้ที่ arlek004@yahoo.com หรือ 086-538-4880 086-5577-075
August 27th, 2010 at 3:50 am
เราทำแป้งโดว์…จากอะไร?ที่ทำให้แป้งโดว์อยู่ได้นาน..ไม่ติดมือ..และไม่แข็ง หรือแข็งแล้วสามารถกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม
1.แป้งสาลี………อัตราส่วนสงวนลิขสืทธิ
2.แป้งมัน……….,,,,,,,,,,,,,,,
3.แป้งข้าวเหนียว………………..
4.น้ำมันปาล์ม…………………..( ถ้าใช้น้ำมันพืชกลิ่นจะหืน)
5.เกลือ……………………… ต้องเป็นเกลือสินเธาเท่านั้น เพราะเกลือจะมีมากกว่าน้ำ
6.สารส้ม……………………. ต้องใช้สารส้มชนิดใสเท่านั้น
7.กลูโคส…………………….
8.สีผสมอาหารชนิดดีที่สุด เพราะจะไม่ทำให้แป้งโดว์สีเปลี่ยน
9.ความร้อนตามอุณภูมิที่รักษาแป้งไม่ให้เน่าและแข็ง
10.น้ำนมแมว ส่วนผสมของไอศครีม…เป็นตัวที่เลี้ยงแป้งไม่ให้เน่า
หมายเหตุ; น้ำไม่สามารถรักษาแป้งอยู่ได้นาน
เราทำการทดลองมาแล้ว 5-6 ปีจึงประสบผลสำเร็จและยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง..ลองmailมาคุยกับเราซิครับ…
September 25th, 2010 at 3:40 pm
K.น้องพลอย แล้วถ้าใช้น้ำมันพืชจะติดมือหรือคะที่บ้านใช้น้ำมันปาล์มยังติดมือเลยค่ะ
September 18th, 2011 at 9:53 am
น่าเล่นดี
March 8th, 2012 at 7:34 pm
ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้เกี่ยวกับการทำแป้งโดว์ คุณครูลูกสาวให้ส่งข้อมูลพรุ่งนี้เช้า ข้อมูลของคุณสามารถช่วยคุณแม่ได้มากเลยทีเดียว ขอบคุณมากค่ะ
February 8th, 2013 at 6:21 am
ตอบคุณน้องนุช
อย่าลืมน่ะครับ การใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันปาล์มนี้นี้ การที่ไม่ใไห้แป้งโดว์ติดมือนั้น ต้องมีอัตราส่วนครับเช่นถ้าใส่น้อยเกินไปก็ติดมือ หรือใส่มากเกินไปก็ติดมือเช่นกัน ฉนั้นลองตวงดูนะครับว่าแป้ง 1 กก ใส่น้ำมันเท่าไหร่ถึงไม่ติดมือ ผมบอกไม่ได้ครับ เพราะเป็นสิทธิที่ทางเราทดลองและสำเร็จมาแล้ว ฉันใดก็ฉันนั้น เหมือนทำกับข้าวครับถ้าใส่ส่วนผสมไม่ถูกสัดส่วน อาหารที่ทำ รสชาติก็เพี้นยๆๆๆเป็นธรรมดาครับ